PREFABRICATED HOUSE : K-HOUSE บ้านพักสำเร็จรูป รูปแบบมาตราฐาน

ในประเทศสหรัฐราชอาณาจักร (United Kingdom) บ้านสำเร็จรูปเกิดขึ้นด้วยความจำเป็นของบ้านในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง (Second World War) ที่บ้านในบริเวณเมืองใหญ่อย่างกรุงลอนดอน (London) ได้ถูกระเบิดทำลาย จึงต้องมีการสร้างขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วเพื่อรองรับผู้คนที่ขาดที่พักอาศัย แม้บ้านจะมีลักษณะออกแบบและก่อสร้างอย่างชั่วคราว แต่ก็ยังคงอยู่ได้อย่างคงทนในอีกหลาย ๆ ปี

บ้านสำเร็จรูปใช้แรงงานในการผลิตและประกอบน้อยกว่าบ้านทั่วๆไป บ้านลักษณะดังกล่าวได้รับความนิยมสูงในยุโรป (Europe), แคนาดา (Canada) และสหรัฐอเมริกา (United States) ด้วยเหตุที่มันมีราคาถูก กฏเกณฑ์ในการกำกับบ้านแบบทั่วไปในแต่ละสถานที่ ไม่ได้ควบคุมถึงบ้านสำเร็จรูป เพราะบ้านดังกล่าวสร้างตามกรอบของรัฐบาลกลาง (Federal HUD regulations) ซึ่งเป็นกรอบตามระบบอุตสาหกรรม แต่บ้านเหล่านี้ก็ต้องไปศึกษาระเบียบของชุมชนหรือเมืองแต่ละเมือง ก่อนที่เจ้าของจะลงมือดำเนินการจริง หรือต้องอาศัยบริษัทรับดำเนินการที่จะดำเนินการในทุกด้านอย่างสำเร็จรูปให้

คำว่า Prefabricated House และอาจเรียกสั้นๆว่า Prefab. House คือที่พักอาศัยที่ผลิตในระบบโรงงานแบบเตรียมล่วงหน้า ในระบบชิ้นส่วนมาตรฐาน แล้วนำมาที่หน้างาน เพื่อประกอบเป็นบ้านได้อย่างรวดเร็ว โดยรูปแบบของบ้านดังกล่าว จำเป็นต้องมีการออกแบบโดยใช้หลักการโครงสร้างเหล็กรวมเข้ากับเทคนิคทางฟิสิกมาทำให้โครงสร้างสามารถ อยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งเสาเข็ม หรือรากฐานดังเช่นบ้านหรือตึกสูง

โดยที่โครงสร้างหลัก ๆ จะประกอบไปด้วยโครงสร้างเหล็ก ประกอบกับผนังแซนวิธ ซึ่งแผ่นผนังชนิดนี้มีลักษณะคุณสมบัติข้อดีหลายประการ อาทิเช่น มีความแข็งแรงต่อการใช้งาน มีน้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก สามารถกันความร้อน ความเย็น และเสียงได้ดี แต่ข้อเสียคือราคาต่อตารางเมตรยังค่อนข้างสูง

ข้อดีของบ้านดังกล่าว คือ เมื่อมีความต้องการเป็นจำนวนมากในแบบที่ไม่ต้องหลากหลายมากนั้น สามารถผลิตได้อย่างมีประสิทธิผล (Cost Effectiveness) ต้นทุนต่อหน่วยต่ำ เพราะหลายส่วนของบ้านที่สร้างขึ้นจะประกอบด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตสมบูรณ์ ดังเช่น เสาบ้าน ผนังสำเร็จ หน้าต่าง ประตู ที่เหมือน ๆ กัน ประกอบเสร็จ วัสดุช่วยลดความร้อนจากรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีคุณสมบัติช่วยประหยัดพลังงานในกรณีใช้เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องทำความร้อน (Heater) อีกทั้งยัง้ลดการใช้แรงงานช่างปูนหรือช่างไม้และช่างเชื่อมลงไป

ในประเทศไทย ค่าแรงงานในการก่อสร้าง ตลอดจนการหาช่างก่อสร้างที่มีฝีมือประณีตและมีความรับผิดชอบต่องานดูจะเป็นเรื่องยากขึ้น และยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในทุก ๆ ปี ประกอบกับถนนหนทางที่ดีขึ้น ทำให้การขนส่งชิ้นส่วนไปประกอบ ณ หน้างาน (Onsite) จะเป็นไปได้อย่างสะดวก บ้านดังกล่าวจึงจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การก่อสร้าง ก็จะคิดถึงโอกาสในการผลิตชิ้นส่วนที่จะประกอบเป็นบ้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

บ้านพักสำเร็จรูปแบบ K-HOUSE จึงถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับความต้องการ ในราคาที่ประหยัด สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการผลิต ขนส่งและติดตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางบริษัท แอคต้าฯ มีแบบบ้านที่เป็นมาตราฐาน แบ่งออกเป็น

ขนาดห้อง

1. ห้องขนาด 7.45 ตารางเมตร

2. ห้องขนาด 9 ตารางเมตร

3. ห้องขนาด 9.9 ตารางเมตร

โดยขนาดตึกมาตราฐานที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดจะอยู่ที่ 20 ห้องต่อ 1 ชั้น โดยที่ตัวตึกสามารถทำได้ตั้งแต่ 1 - 3 ชั้น ทั้งนี้ทางลูกค้ายังสามารถออกแบบยืดหรือหดจำนวนห้องลงเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ ๆ ต้องการจะปลูกบ้านพักแบบประหยัดนี้